Test drive BMW ix3 เรียบหรูสไตล์BMW

มาส่องกันเลย เริ่มที่รูปลักษณ์กันก่อน ด้วยกระจังหน้าใหญ่บึ้มทำให้เรารู้สึกว่ามันดูสวยแพงยังไงไม่รู้ แล้วด้วยความใหญ่นี่แหละที่ทำให้รู้สึกว่ารถ BMW iX3 รุ่นนี้ ดูแข็งแกร่งสปอร์ตขึ้นมาทันที และไฟหน้าที่รุ่นนี้ออกแบบมาได้เฉี่ยวมาก เหมือนตาเหยี่ยวเลย

และต้องขอชมเลยว่าการเอารถมา Test Drive ที่เขาใหญ่นี่ดีนะ เพราะมีทั้งขึ้นเขา ลงเขา เข้าโค้ง ทางลาดเอียง บอกเลยว่าเหมาะมากๆกับการเทสรถมากๆ คือขับกันมันมากจนน้องจีเนียสสนุกตาม 555 ไม่รู้ข้อนี้อมรเพลสทีจ เค้าคิดมามั้ย แต่ตอบโจทย์เลยค่ะ BMW iX3 รุ่นนี้มาในรูปลักษณ์ของ SUV สีสวยมากเพราะดูเหมือนเป็นสีดำแต่พอออกแดดสะท้อนมันจะเหลือบๆ ไม่ดำสนิท เรียกสี Black Sapphire metallic รุ่นนี้ใช้ระบบไฟฟ้า 100% ย้ำจ้า 100% จอดไหนชาร์ตที่นั่นสะดวกดี ส่วนช่องเติมน้ำมันในฝั่งขวามือที่เคยมีเปลี่ยนเป็นช่องเสียบชาร์จไฟฟ้าแบบ CCS2 แถมสามารถชาร์จได้เฉพาะหัว ACอีกด้วย

ภายในคล้ายกับ BMW X3 ไม่มีอะไรพิเศษเพราะชอบอยู่แล้วเรียบหรูตามสไตล์ BMW แต่ที่จะสะดุดตาก็คือ ภายนอกที่มากับล้อลายใหม่ที่พิเศษกว่าซีรีย์3 ล้อนี้ดูสปอร์ตเกินหน้าตามาก ขนาด 20 นิ้วทำให้ขณะที่เราทดลองขับรู้สึกเลยว่าหนึบเกาะถนนดี การเข้าโค้งต่างๆ รู้สึกว่าเกาะถนนมากกกก เผลอลืม 330e ที่ขับไปเที่ยวไปแว๊บนึงเลย

ส่วนคอนโซลกลางมีจอสัมผัสทัชสกรีนขนาดใหญ่ 12.3 นิ้ว แบบลอยตัว สามารถเชื่อมต่อไร้สายกับโทรศัพท์ของเราได้ ระบบการสั่งการด้วยเสียง ที่พิเศษขึ้น BMW iX3 เป็นรถยนต์ไฟฟ้าหน้าจอก็มีทั้งการแจ้งจำนวนแบตเตอรี่และเปอร์เซ็นต์การใช้งานและระยะทางที่ขับขี่ได้ เบาะที่นั่งปรับไฟฟ้า 100% ที่นั่งด้านหลังนี่สบายสุดๆ เหมาะมากที่จะขนครอบครัวไปเที่ยวไกลๆได้เลย

และที่สำคัญหลังคากระจกเต็มบานทำให้รถคันนี้เมื่อได้ทดลองขับจะรู้สึกถึงความโปร่งสบายมากๆ เลย ส่วนพื้นที่ใส่ของด้านหลังกว้างมาก อันนี้ถูกใจสุดๆเพราะเป็นสายชอบขนของ มีรถเหมือนย้ายบ้านนี่คือ คอนเซปประจำตัว กระเป๋าเดินทางใบใหญ่ รถคันนี้ใส่ได้สบาย เหมาะเป็นรถครอบครัวจริงๆ

ระหว่างเทสรถไปก็พูดคุยถามนู่นนี่นั่นกับน้องจีเนียสไป เมื่อพูดถึงรถไฟฟ้า สิ่งที่เราอยากรู้มากๆก็คือ BMW iX3 ชาร์จ 1 ครั้ง วิ่งได้กี่กิโล? จีเนียสบอกชาร์จหนึ่งครั้งวิ่งไกลสุดได้ถึง 460 กิโลเมตร ในโหมด Eco นะ เพราะรถคันนี้ปรับได้ทั้งระบบ Eco และ Sport เพื่อให้สามารถใช้ได้ทั้งในเมืองและนอกเมือง ระยะทางขนาดนี้ไปต่างจังหวัดสบายๆ กันเลยไม่ต้องกังวลหรือคอยแวะชาร์จที่ไหนระหว่างทาง

ส่วนเรื่องเครื่องยนต์ เปิดฝากระโปรงมาก็จะพบ ห้องเครื่องที่มีแผ่นพลาสติกดีไซน์สวยครอบทับเกือบเต็มพร้อมตรา BMW เรียบร้อยเนียนสวยมาก ความจุแบตเตอรี่ไฟฟ้าแรงสูง 80 kWh แต่สามารถใช้ได้ สูงสุด 74 kWh นะ เค้าบอกมากำลังสูงสุด 286 แรงม้าที่ 6,000 รอบ/นาที

การได้ทดลองขับในวันนี้ ส่วนตัวประทับใจและความเงียบนุ่มนวล เวลาเร่งแซง ออกตัว BMW iX3 รถไฟฟ้าที่ทำได้ดีมากๆ ตัวนึงเลย รวมนุ่มนวลเป็นที่สุด และที่สำคัญเข้าโค้งไม่รู้สึกโยนเลยกับคันนี้ และที่สนุกกับรถคันนี้ด้วยความฉลาดของมถึงเวลาขึ้นเขาอัตตราการเร่งก็ไม่มีสะดุด ออกตัวได้เร็วมากจนลืมไปว่ามันคือรถระบบไฟฟ้า เบรกนิ่มแต่ขับมันมาก เวลาที่คนขับลงจากรถ รถจะดับเครื่องให้เราอัตโนมัตินะ

ส่วนรูปนี้เราไปเอารูปหัวชาร์ตไฟของ i7 น้องเซลล์บอกว่าเหมือนกับ iX3 เอามาให้ดูกันแทนนะพอดีลืมถ่ายไว้ -_-"

ราคาของเจ้า BMW iX3 3,499,000 บาท ส่วนโปรโมชั่นก็แล้วแต่ดีลเลอร์เลยว่า ใครจะลดแลกแจกแถมกันขนาดไหน ชอบบริการดีลเลอร์ไหนเลือกกันเอา ส่วนเราคงยาวๆ กับอมร เพรสทีจนะ เพราะประทับใจเรื่องการดูแลหลังการขายนี่แหละ เรื่องรถเราว่า BMW ได้มาตรฐานทุกคัน แต่บริการหลังการขายนี่สิต้องเลือกกันดีๆ เพราะเพื่อนเราเป็นลูกค้าอีกดีลเลอร์นึงเปลี่ยนเซลล์มาดูแลจนงงไปหมด จากทริปแรลลี่นี้นางเลยปันใจมาอมร เพรสทีจเยอะมากหน่อย 5555

ที่นี่นอกจากเรื่องคุณภาพรถก็เน้นเรื่องเซลล์และบริการหลังการขายเป็นเลิศ แต่ถ้าจะมีข้อติงนิดหน่อยก็น่าจะเป็นเพราะ 2 รอบหลังที่เราพาเพื่อนไปเทสรถอาจจะเจอกับจีเนียสน้องใหม่ทั้ง 2 รอบ แต่เพราะด้วยความที่เพื่อนเป็นสาวก BMW ตัวแม่ เลยรู้ลึกรู้จริงข้อมูลแน่นสไตล์คนรักรถ ทำให้ในบางคำถามน้องจีเนียสตอบได้ไม่สะใจเพื่อนเท่าไหร่ แต่ก็เข้าใจได้นะเพราะเห็นถึงความจริงใจและตั้งใจอ่ะว่าแนะนำแบบไม่กั๊กจริงๆ

ปล.แต่ถ้าใครจะไปดูรถเทสรถขอแอบแนะนำไปที่โชว์รูมสาขารังสิตนะ เค้ามีโซนที่นั่งสวยๆ THAN SPACE ข้างบนอ่ะ กินไปคุยไปหรือจะนั่งยาวๆ ทั้งวันเลยก็ได้น้องเซลล์บอก 5555