จังหวัดสุพรรณบุรีนั้น เป็นจังหวัดที่อยู่ในภาคกลางซึ่งห่างจากกรุงเทพมหานครไม่ไกลมากนัก ใช้ระยะเวลาการเดินทางไม่นานถนนหนทางก็ดีมาก ซึ่งเดินทางได้สะดวกคล่องตัวทั้งรถเล็กและรถใหญ่ หรือ รถมอเตอร์ไซค์ ออก ทริป ของเหล่านักท่องเที่ยวที่มีใจรักธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม  และที่สำคัญนั้น จังหวัดสุพรรณบุรีถือว่าเป็นจังหวัดที่มีแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญๆ รวมไว้อยู่มากมายให้นักท่องเที่ยวได้ไปเที่ยวชม และสามารถใช้ระยะเวลาเพียงแค่ 1 วัน ก็สามารถเที่ยวไปกลับสุพรรณบุรีได้แล้ว หรือ ถ้านักท่องเที่ยวท่านไหนอยากใช้เวลาในการท่องเที่ยวให้มากกว่านี้จังหวัดสุพรรณบุรีก็ถือเป็นอีกสถานที่หนึ่งที่ท่านไม่ควรพลาดและตอบโจทย์ในการท่องเที่ยวพักผ่อนด้วยเช่นกัน มีทั้งที่พักที่อำนวยความสะดวก โรงแรมขึ้นชื่อชั้นนำ หรือ จะกางเต็นท์ โฮมสเตย์ แบบชาวบ้านก็มีให้เลือกหาอย่างมากมาย 

โดยเมื่อวันที่อาทิตย์ที่  8 มกราคม 2566 ทางด้าน ดร.อุดม โปร่งฟ้า พร้อมด้วย ดร.สุจิตรา ทรงมัจฉาที่ ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) ได้ลงพื้นที่ดูการพัฒนาแม่น้ำลำคลอง โดยพุ่งเป้าไปที่แม่น้ำท่าว้า ซึ่งจากข้อมูลมีว่าแต่ก่อนนั้นแม่น้ำท่าว้า ได้รับผลกระทบจากการปล่อยของเสียจากฟาร์มสุกรที่ชาวบ้านได้เลี้ยงไว้ในละแวกใกล้เคียง เป็นสาเหตุหลักทำให้น้ำเน่าเสีย แต่ปัจจุบันได้มีหน่วยงานเข้าไปพัฒนาให้ความรู้การกำจัดของเสียแก่ชาวบ้านที่เลี้ยงฟาร์มสุกร แนะนำแนวทางการกำจัดของเสียจนปัจจุบันไม่ได้ทิ้งน้ำเสียลงแม่น้ำแล้ว จึงทำให้แม่น้ำท่าว้ามีสภาพใสสะอาดขึ้นดีขึ้นมาก ซึ่งเป็นระดับดีที่เดียว และทางกรมเจ้าท่าได้เข้าขุดลอกเพื่อคืนชีวิตคืนสภาพระบบนิเวศที่สมบูรณ์ให้แก่แม่น้ำท่าว้า และคาดหวังว่าจะสามารถพัฒนาเป็นสถานที่ท่องเที่ยวในอนาคตต่อไปได้อีกด้วย จนปัจจุบัน แม่น้ำท่าว้า ใสสะอาดไร้มลพิษ ทำมีหิ่งห้อยมาอาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก ซึ่งหากจะเปรียบเสมือน ก็จะคล้ายคลึงกับที่อัมพวา จังหวัดสุมทรสงคราม แต่ที่นี้แม่น้ำท่าว้าแห่งนี้ มีระบบนิเวศที่สมบูรณ์มากกว่าและมีหิ่งห้อยออกมาให้เห็นเป็นจำนวนมาก แตกต่างจากหิ่งห้อยที่อัมพวาซึ่งตอนนี้แทบจะไม่มีหิ่งห้อยให้เห็นแล้วนั้น ดังนั้นที่แม่น้ำท่าว้า จังหวัดสุพรรณบุรีจึง ควรค่าแก่การอนุรักษ์ยิ่งนัก เพราะตลอดสองข้างทางของริมแม่น้ำท่าว้า การันตีตลอดระยะทาง ระยะทาง 1 กิโลเมตรกว่าๆ ท่านจะพบเป็นจำนวนมากมายเลยจริงๆ ซึ่งภายหลังจากการลงพื้นที่ไปแล้วทางด้านดร.อุดม โปร่งฟ้า พร้อมหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จะทำการเร่งทำการพัฒนาเป็นแหล่งท่องเที่ยวต่อไปในอนาคตให้ได้เร็วที่สุด โดยปัจจุบันได้ทำการเปรียบเทียบจากการท่องเที่ยวล่องเรือชมหิ่งห้อยของแม่น้ำอัมพวา จังหวัดสมุทรสงครามพบว่า ตอนนี้มีนักท่องเที่ยวประมาณ 1 ล้านคน/ปี ทั้งชาวไทยและต่างชาตินั้น  สำหรับแม่น้ำท่าว้าแห่งนี้ยังถือเป็น UNSEENแหล่งท่องเที่ยวแห่งใหม่ที่จะต้องเร่งพัฒนาให้อย่างน้อยภายในระยะเวลา 1 ปี ต้องมีนักท่องเที่ยว 1 แสนคนเป็นอย่างต่ำ หรือ 8,000 คนต่อเดือน หรือ ขอแค่ 10% ต่อปี เมื่อเทียบจากอัมพวาก็เป็นที่น่าพอใจ เนื่องด้วยแม่น้ำท่าว้านี้ ยังเป็นสถานที่ใหม่ที่เพิ่งเร่งการพัฒนาให้ดีขึ้น เพื่อรองรับให้เป็นสถานที่ท่องเที่ยวชมหิ่งห้อยที่มากที่สุดอีกที่หนึ่งอาจจะเรียกว่าวังหิ่งห้อยเลยก็ว่าได้  ทั้งนี้ดร.อุดม โปร่งฟ้า กล่าวว่า นับตั้งแต่นาทีนี้เป็นต้นไป ตนเชื่อมั่นว่าคนไทยทั้งประเทศและคนทั้งโลก จะหันมามอง อำเภอสวนแตง จังหวัดสุพรรณบุรี ในฐานะแหล่งท่องเที่ยวเชิงระบบนิเวศที่มีความสมบูรณ์มีความสวยงามทางธรรมชาติที่สร้างสรรค์มาให้มนุษย์  และกระตุ้นเศรษฐกิจการท่องเที่ยว ให้ชาวบ้านในพื้นที่ และจังหวัดสุพรรณบุรี ให้กลับมาฟื้นตัวมีรายได้จากสถานที่ท่องเที่ยวแห่งใหม่ที่นี้ “แม่น้ำท่าว้า

ทั้งนี้จากการลงพื้นที่แม่น้ำท่าว้าเที่ยวชมดูหิ่งห้อย ได้มีการบันทึกภาพความสวยงามนี้มาให้ทุกท่านได้เห็นกันก่อน ตามลิงค์นี้ https://vt.tiktok.com/ZS8yYk23c/  และอยากจะขอเชิญชวนให้นักท่องเที่ยวทุกท่านได้ลองไปพิสูจน์และสัมผัสด้วยตาของท่านเองได้ที่ แม่น้ำท่าว้าจังหวัดสุพรรณบุรี 

ขอบคุณแหล่งที่มา https://www.facebook.com/100022023469827/videos/724941732609011/