Facebook Twitter
gPlus 
-

ถึงแม้ไทยจะเป็นจุดหมายหลักในการมีเที่ยว แต่เป็นการกระจุกรายได้อยู่กับร้านที่เป็นที่นิยม

หลังจากที่ประเทศไทยดีใจกันอย่างหนักกับการที่ประเทศจีนประกาศเปิดประเทศในเดือนมกราคม65 ที่ผ่านมา แน่นอนว่าทุกคนคิดว่า อุตสาหกรรมท่องเที่ยวนั้นน่าจะยิ้มหน้าบานไปตามๆ กัน เศรษฐกิจไทยและปากท้องคนไทยนั้นคงจะดีขึ้นจากหน้ามือเป็นหลังมือแล้วแน่ๆใช่มั้ย

จากภาพที่เราได้เห็นในข่าวกับการที่ทางภาครัฐหน้าชื่นตาบานไปกับการเดินทางเข้าสู่ประเทศไทยของนักท่อเที่ยวจีนกับภาพที่คุ้นตากับการเรียงแถวยืนต้องรับ(อย่างเขิลอาย) พร้อมมอบพวงมาลัยดอกไม้สร้างความประทับใจว่าขนาดผู้ใหญ่ในบ้านเมืองยังลงมาต้อนรับกันขนาดนี้ แต่ก็ไม่รู้ว่าเราอยู่โลกใบเดียวกันหรือป่าว เพราะก่อนหน้านี้รัฐบาลก็ดีใจกับตัวเลขนักท่องเที่ยวที่มีถึง 11 ล้านคน แต่ถ้าเปิดข้อมูลกันจริงๆก่อนปี 2019 เรามีนักท่องเที่ยวมากถึงเกือบ 40ล้านคน. แถมตัวเลขที่เราหลงดีใจ 11 ล้านคนนั้น ก็ไม่ได้ทำรายได้เข้าไทยได้มากตามที่หวังแม้แต่น้อย ข่าวที่ประชาสัมพันธ์ออกมาชั่งย้อนแย้งกับความเป็นจริงที่ภาคธุรกิจท่องเที่ยวเจอจริงๆ      

การเข้ามาของนักท่องเที่ยวจีนนั้น อาจจะไม่ได้นำเงินเข้าประเทศไทยของเราแต่กลับเอาเงินเข้ากระเป๋านักลงทุนชาวจีน  เพราะจากที่คิดว่านักท่องเที่ยวจีนจะมาเป็นลูกค้าแต่กลับกลายว่ามาเป็นคู่แข่งทางการค้าด้วยซ้ำไป  จะเห็นได้อย่างชัดเจนในแหล่งท่องเที่ยวที่เป็นที่นิยมของชาวจีน ขอยกตัวอย่างง่ายๆ  ห้วยขวาง ถ้าลงมาดูตลาดท่องเที่ยว ร้านค้า ร้านของฝาก ร้านนวด ร้านอาหาร บริเวณนั้น เจ้าของเป็นคนจีนที่มีธุรกิจรวมกับคนไทย หรือเรียกง่ายๆว่า คนไทยเราเองเป็นนอมินีของเศรษฐีชาวจีน

แถมร้านพวกนี้จะได้รับความนิยมอย่างมากในกลุ่มนักท่องเที่ยวจีน  เพราะพวกเค้าจะได้รับการบริการในรูปแบบคนกันเอง พูดภาษาเดียวกัน วัฒนธรรมเดียวกัน ลดแลกแจกแถมกันแบบนี้เป็นใครใครก็ชอบ แล้วจะเรียกได้ว่าเงินเข้ากระเป๋าใครกันแน่ ลองคิดดู ยังไม่นับกระแสนิยมที่เกิดขึ้นในกลุ่มนักท่องเที่ยวชาวจีน การที่มาท่องเที่ยวประเทศไทยแล้วได้อุดหนุนร้านรวงต่างๆที่มีชาวจีนเป็นเจ้าของนั้นก็ยังคงเป็นกระแสนิยมเสมอ เพราะ กระแสชาตินิยมของชาวจีนนั้นบอกเลยว่ามีความแข็งแรงเป็นอย่างมาก เรื่องนี้เกิดขึ้นตั้งแต่ก่อนวิกฤตโควิด-19 ด้วยซ้ำแต่ประเทศไทยก็ยังแก้ปัญหานี้ไม่ได้เสียที เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องควรมีการจัดการกับธุรกิจกลุ่มทุนผิดกฎหมายเหล่านี้ เพราะถ้าประชาชนรู้ ตำรวจจะไม่รู้ได้อย่างไร

ล่าสุดกับเทศกาลวันวาเลนไทน์ ที่ผ่านมา สดๆร้อนๆ เมื่อพูดถึงวาเลนไทน์แน่นอน ปากคลองตลาดคือมุ่งหมายของคู่หนุ่มสาวที่มาจับจ่ายซื้อดอกไม้ให้คนรัก แต่เชื่อหรือไม่ว่าตอนนี้ร้านขายดอกไม้ ที่ตลาดปากคลองนั้น มีทุนจีนที่มีนอมินีไทยซื้อตึกเอง เปิดร้านขายดอกไม้กันโจ๋งครึ่ม นำเข้าดอกกุหลาบจากจีนเอง แถมยังมีขนาดดอกใหญ่กว่าไทยหลายต่อหลายเท่า แถมราคาถูกกว่าอีกด้วย ทำให้ดอกกุหลาบจีนได้รับความนิยมอย่างมาก 

โดยส่วนแบ่งทางการตลาดพี่จีนของเราเอาไปแล้ว 60% ส่งผลให้ร้านที่มีเจ้าของเป็นคนไทยนั้น ยอดตกแบบฮวบๆ แบบนี้ไม่รู้ว่าการเปิดรับนักท่องเที่ยวจีนนั้น เป็นการเปิดรับนักท่องเที่ยวหรือนักธุรกิจกันแน่ แต่ธุรกิจที่เอาเงินเข้ากระเป๋าซ้าย กระเป๋าขวาแบบนี้ ไม่ดีต่อเศรษฐกิจไทยอย่างแน่นอน ไม่ใช่หมอดูก็รู้อนาคตอย่างชัดแจ๋ว

ถึงแม้ไทยจะเป็นจุดหมายหลักในการมีเที่ยวและจริงๆมันก็มีบางร้านที่ได้อานิสงค์ตรงนี้อยู่ด้วย แต่ก็เป็นการกระจุกรายได้อยู่กับร้านที่เป็นที่นิยม นักท่องเที่ยวมาเพิ่มจริงแต่ก็เพราะกระแสโซเชี่ยลนี่แหละ ที่ทำให้ร้านต่างๆ ในประเทศไทยบางร้านเป็นที่นิยมของชาวจีนเป็นอย่างมาก ยกตัวอย่างเช่นร้านข้าวมันไก่เจ้าดังย่านประตูน้ำ มี2 ร้านติดกันขายอาหารเหมือนกันแต่แค่มองที่หน้าร้านเห็นได้ชัดเลยว่า หนึ่งร้านมีแถวที่ยาวมากส่วนอีกร้านไม่มีคิวเลย นั่นแสดงให้เห็นถึงการกระจุกตัวของรายได้ SME ในธุรกิจท่องเที่ยวนั่นไม่ได้ดีขึ้นทุกที่แม้จะมีนักท่องเที่ยวจีนเข้ามา เพราะรายได้นั้นมาไม่ถึงพวกเขา ไม่มีใครไปเสียเวลาลองชิม ลองชอป ร้านที่ไม่เป็นกระแส แล้วจาดเทรนด์โซเชียลแนวแบ็คแพ็ค หรือสตรีทฟู๊ตมาแรง กระทั่งเซเลปดาราก็ยังทิ้งภาพการเดินทางท่องเที่ยวแบบไฮโซ ช้อปปิ้งแบรนด์เนมหรูในดิวตี้ฟรี หรือพักโรงแรมระดับ 5 ดาว มาเดินเล่นสู้ชีวิตกันตามตลาด

หากฟังมาแบบนี้ว่าน่าเห็นใจธุรกิจท่องเที่ยวของไทยเองแล้วยังคงมีอีกเรื่องที่เราพบเห็นได้บ่อยมาก กับการที่ชาวจีนมาเที่ยวประเทศไทย และซื้อสินค้าจากร้านที่มีชาวจีนเป็นเจ้าของธุรกิจ และไลฟ์สดขายสินค้านั้นๆ เพื่อส่งไปยังประเทศจีน บอกเลยว่าเม็ดเงินที่เข้ากระเป๋าประเทศไทยจริงๆ น้อยมาก

สุดท้ายถ้ารัฐบาลยังไม่ลงมาดูแลส่วนนี้ การปล่อยให้กลุ่มทุนจีนเข้ามามีผลต่อเศรษฐกิจท่องเที่ยวนั้นไม่เป็นผลดีอย่างแน่นอน(หรือจะมีส่วนได้เสียกันแน่นะเลยทำเบลอๆไป) ทั้งที่ประชาชนตาดำๆอย่างเรายังมองเห็นชัดเจนมาก ถ้ารัฐบาลยังหลับหูหลับตากันต่อไป ธุรกิจท่องเที่ยวของเราคงไม่มีทางกลับมานำเงินเข้าประเทศเหมือนเดิมได้อย่างแน่นอน อีกอย่างควรเอาเวลากับการหลงตื่นเต้นไปกับตัวเลขของนักท่องเที่ยวที่มาเพิ่มขึ้นแต่ก็ยังน้อยอยู่ดี ลงมาช่วยเหลือเยียวยาธุรกิจท่องเที่ยวกันดีกว่ามั้ย เพราะลืมไปหรือป่าวว่า ธุรกิจที่ปิดตัวไปกว่า 3 ปี ขาดสภาพคล่องอย่างแน่นอน ไม่ว่าจะเป็น ห้างร้าน โรงแรม ดิวตี้ฟรี สายการบิน กลุ่มธุรกิจ SME รายย่อยๆในตอนนี้พวกเค้าเหลือเงินในกระเป๋าเพื่อดำเนินธุรกิจต่อหรือไม่ เพราะเท่าที่ผ่านมาเห็นแต่การประโคมข่าวเรื่องจำนวนนักท่องเที่ยวเข้าประเทศ โดยข่าวจำนวนเงินใช้จ่ายต่อหัวของนักท่องเที่ยวที่ลดลงนั้น กลับไม่มีการนำเสนอ หรือเพราะท่านๆไม่กล้าเผชิญความจริงกันนะ

เมื่อมันย้อนแย่งกันขนาดนี้ รัฐบาลก็ยังไม่มีโครงการช่วยเหลือเยียวยาธุรกิจท่องเที่ยวเลย ได้แต่หวังว่ารัฐบาลใหม่จะมองเห็นจุดนี้หรือจะเป็นวังวนที่ประชาชนเห็นภาครัฐไม่เห็น ซ้ำรอยแบบนี้ไปอีกหรือไม่ คงต้องติดตาม ตอนนี้ได้แต่นั่งถอนใจกันแล้ว...

โดย : pook26 ก.พ. 2566 เวลา 18:59115.87.200.57312
ตอบกระทู้

ตอบกระทู้

โปรดอ่าน ก่อนตอบกระทู้
ก่อนตอบกระทู้ กรุณาอ่าน กฏ กติกา ในการใช้งานเว็บบอร์ด ซึ่งถือเป็นข้อตกลงในการใช้บริการก่อน

ด้วยทาง บริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ จำกัด (มหาชน) ได้ติดต่อขอความร่วมมือ มายังเว็บไซต์ ThaiZA.com ห้ามให้มีการเผยแพร่ผลงานอันมีลิขสิทธิ์ ของบริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ฯ บนเว็บไซต์ โดยกำหนดขอบเขตของสิ่งที่ห้ามทำ และสามารถทำได้ ดังนี้

ห้ามทำ
  • การใส่ผลงานเพลงต้นฉบับให้ฟัง ทั้งแบบควบคุมเพลงได้ หรือซ่อนเป็นพื้นหลัง และทั้งที่อยู่ใน server ของคุณเอง หรือ copy code คนอื่นมาใช้
  • การเผยแพร่ file ให้ download ทั้งที่อยู่ใน server ของคุณเอง หรือฝากไว้ server คนอื่น
สามารถทำได้
  • เผยแพร่เนื้อเพลง ต้องระบุชื่อเพลงและชื่อผู้ร้องให้ชัดเจน
  • การใส่เพลงที่ร้องไว้เอง ต้องระบุชื่อผู้ร้องต้นฉบับให้ชัดเจน

จึงเรียนมาเพื่อโปรดปฎิบัติตาม มิเช่นนั้นทางบริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ฯ จะให้ฝ่ายดูแลลิขสิทธิ์ ดำเนินการเอาผิดกับท่านตามกฎหมายละเมิดลิขสิทธิ์

ขอขอบคุณ THAIZA.com
ข้อความตอบ :
    
ตอบโดย ชื่อ :
 
ใส่ตัวอักษร ให้ตรงกับรูปด้านบน
หากท่านพบเห็นการกระทำ หรือพฤติกรรมใดๆ ที่ไม่เหมาะสม
ซึ่งอาจก่อให้เกิดความเสื่อมเสียแก่สถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
รวมถึง การใช้ข้อความที่ไม่สุภาพ พฤติกรรมการหลอกลวง การเผยแพร่ภาพลามก อนาจาร
หรือการกระทำใดๆ ที่อาจก่อให้ผู้อื่น ได้รับความเสียหาย กรุณาแจ้งมาที่ webmaster@thaiza.com โดยด่วนค่ะ
กลับขึ้นด้านบน